This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
Messages - เจ๊วู
1
« เมื่อ: มีนาคม 26, 2021, 08:54:06 AM »
ครบรอบ 51 ปี
ไทยทีวีสีช่อง 3 (03)
วันที่ 26 มีนาคม 2513
บริษัท #บางกอกเอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (#BEC)
ได้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการวิทยุโทรทัศน์
ในนาม “#สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3”
จนกิจการก้าวหน้าผ่านจากระบบอะนาล็อก
เข้าสู่ระบบดิจิทัลทีวีสมบูรณ์แบบ
วันที่ 26 มีนาคม 2564
ครบ 51 ปี “ช่อง 3”
#ช่อง3 #51ปีช่อง3
2
« เมื่อ: มีนาคม 25, 2021, 02:43:18 PM »
ครบรอบ 69 ปี อสมท คู่สังคมไทย
วันที่ 9 เมษายน 2564
ช่อง 9 อสมท (09)
ครบรอบ 69 ปี (69)
คู่สังคมไทย
3
« เมื่อ: มีนาคม 25, 2021, 02:28:53 PM »
วันคล้ายวันประสูติ
"ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี"
๕เมษายน วันคล้ายวันประสูติ (๐๕)
"ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี"
ทรงเจริญพระชันษา ๗๐ ปี (๗๐)
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ประสูติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๔
ณ โรงพยาบาลมองชัวซีส์ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
และได้เสด็จนิวัตพระนคร แล้วประทับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
และเมื่อถึงงานพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่แล้ว
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานพระอิสริยยศเมื่อประสูติ
คือ "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี"
โดยพระนามของพระองค์มาจากพระนามและนามของพระประยูรญาติหลายพระองค์ อันได้แก่
-สร้อยพระนาม "สิริ" มาจากพระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
-สร้อยพระนาม "วัฒนา" มาจากพระนามาภิไธยเดิมของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี
พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า คือ สว่างวัฒนา ซึ่งเป็นสมเด็จพระอัยยิกาฝ่ายพระราชชนก
-พระนาม "อุบลรัตน์" มีความหมายว่า บัวแก้ว มาจากนามของหม่อมหลวงบัว กิติยากร พระอัยยิกาฝ่ายพระราชชนนี
ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ทรงตรัสเรียกว่า "เป้" อันเป็นคำลดรูปของคำว่า ลาปูเป (ฝรั่งเศส: La Poupée)
ซึ่งเป็นคำมาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ตุ๊กตา ส่วนพระราชวงศ์และบุคคลอื่น ๆ
จะเรียกพระองค์ว่า "ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงใหญ่"
ส่วนพระอนุชาและพระขนิษฐาจะเรียกพระองค์ว่า "พี่หญิง"
6
« เมื่อ: มีนาคม 25, 2021, 01:58:23 PM »
27 มีนาคม วันกองทัพอากาศ (27)
กิจการบินของไทย เริ่มต้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว ได้มีชาวต่างชาตินำเครื่องบินมาบินแสดงให้ชาวไทยได้ชมเป็นครั้งแรก ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2454
เมื่อเห็นเช่นนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพิจารณาเห็นว่า
ประเทศไทยจำเป็นจะต้องมีเครื่องบินไว้เพื่อป้องกันภัยการคุกคามที่จะเกิดขึ้น
ดังนั้น กระทรวงกลาโหม จึงตั้ง "แผนการบิน" ขึ้นมาในกองทัพบก พร้อมทั้งได้คัดเลือกนายทหารบก 3 นาย
ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสม ไปศึกษาวิชาการบิน ณ ประเทศฝรั่งเศส ได้แก่
1. นายพันตรี หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ (สุณี สุวรรณประทีป) ต่อมาเป็น พลอากาศโท พระยาเฉลิมอากาศ
2. นายร้อยเอก หลวงอาวุธสิขิกร (หลง สินศุข) ต่อมาเป็น นาวาอากาศเอก พระยาเวหาสยานศิลปสิทธิ์
3. นายร้อยโท ทิพย์ เกตุทัต ต่อมาเป็น นาวาอากาศเอก พระยาทะยานพิฆาต
และทั้ง 3 นายได้รับการยกย่องจากกองทัพอากาศให้เป็น "บุพการีของกองทัพอากาศ"
ทั้งนี้ ในขณะที่ทั้ง 3 นายได้เข้าเรียนที่บริษัท นีเออร์ปอร์ต (Nieuport Company) ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2454
นั้น ทางราชการก็ได้ซื้อเครื่องบินเป็นครั้งแรก จำนวน 8 ลำ โดยระยะแรก ได้ใช้สนามม้าสระปทุม (ราชกรีฑาสโมสร) เป็นสนามบิน
แต่ด้วยปัญหาบางประการทำให้สนามม้าสระปทุมไม่สามารถรองรับกิจการการบินที่เติบโตขึ้นได้ จอมพล สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
ทรงย้ายที่ตั้งแผนกการบิน มาที่ตำบลดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2457 และทรงยกฐานะแผนกการบินเป็น "กองบินทหารบก"
ในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2457 ดังนั้น กระทรวงกลาโหม จึงยึดถือวันนี้เป็น "วันที่ระลึกกองทัพอากาศ"
ในปี พ.ศ. 2464 กระทรวงกลาโหม ได้พิจารณาเห็นว่า กำลังทางอากาศ มิได้เป็นกำลังเฉพาะในด้านยุทธศาสตร์ทางทหารเท่านั้น
แต่มีประโยชน์อย่างกว้างขวางต่อกิจการด้านอื่น ๆ อีกด้วย จึงได้แก้ไขการเรียกชื่อจาก "กรมอากาศยานทหารบก" เป็น "กรมอากาศยาน"
และเป็น "กรมทหารอากาศ" ในเวลาต่อมา โดยให้อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโดยตรง
พร้อมทั้งได้มีการกำหนดยศทหาร และการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบจาก "สีเขียว" มาเป็น "สีเทา" ดังเช่นในปัจจุบัน
ต่อมาในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2480 กรมทหารอากาศได้ยกฐานะเป็น "กองทัพอากาศ"
มีนาวาอากาศเอก พระเวชยันต์รังสฤษฎ์ เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศคนแรกกองทัพอากาศ
จึงได้ถือเอาวันที่ 9 เมษายนของทุกปี เป็น "วันกองทัพอากาศ" อีกหนึ่งวันสำคัญของกองทัพอากาศ
นอกจากนี้ ยังได้มีการยกย่องถวายพระเกียรติ
จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
เป็น "พระบิดาแห่งกองทัพอากาศไทย"
7
« เมื่อ: มีนาคม 25, 2021, 12:06:19 PM »
วันคล้ายวันพระราชสมภพ
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
(1).jpg)
ประณตน้อม ค้อมกราบ ทาบพระบาท
วโรกาส บรรจบ ครบ ๖๖ พรรษา
"องค์ฯ พระเทพรัตน ราชสุดาฯ"
ผองประชา เทิดองค์ พระทรงชัย
ขอพระองค์ ทรงศักดิ์ ประจักษ์สุข
นิราศทุกข์ ทั้งปวง ล่วงสมัย
สัมฤทธิ์ผล สม พระราชหฤทัย
พลานามัย เกษมศานต์ สำราญเทอญ
ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า เจ๊วู ศาสตราจารย์ พลเอกหญิง พลเรือเอกหญิง พลอากาศเอกหญิง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๘ ( ๖๖ )
(ตรงกับวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะแม สัปตศก)
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ ๓
ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์ หม่อมหลวงเกษตร สนิทวงศ์ เป็นผู้ถวายพระประสูติกาล
และได้รับการถวายพระนามจากสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์
พร้อมทั้งประทานคำแปลว่า นางแก้ว อันหมายถึง หญิงผู้ประเสริฐ
และมีพระนามที่ข้าราชบริพาร เรียกทั่วไปว่า ทูลกระหม่อมน้อย
พระนาม "สิรินธร" นั้น นำมาจากสร้อยพระนามของสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร
ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชปิตุจฉา (ป้า) ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
สำหรับสร้อยพระนาม "กิติวัฒนาดุลโสภาคย์" ประกอบขึ้นจากพระนามาภิไธยของสมเด็จพระบุพการี 3 พระองค์
ได้แก่ "กิติ" มาจากพระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระมารดา (แม่)
ส่วน "วัฒนา" มาจากพระนามาภิไธยเดิมของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
(คือ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี) สมเด็จพระปัยยิกา (ย่าทวด)
และ "อดุล" มาจากพระนามาภิไธยของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระอัยกา
เป็นพระโสทรกนิษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
เป็นเจ้านายพระองค์แรกที่ได้รับสถาปนาพระอิสริยยศที่ “สยามบรมราชกุมารี”
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสภาสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา
ประธานกรรมการมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
พระองค์มีพระปรีชาสามารถในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านอักษรศาสตร์และดนตรีไทย
ซึ่งพระองค์ได้นำมาใช้ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และให้การอุปถัมภ์ในด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศ
จากพระราชกรณียกิจในด้านศิลปวัฒนธรรมนี้ พระองค์จึงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระสมัญญา
ว่า “เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย” และ “วิศิษฏศิลปิน”
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการศึกษา การพัฒนาสังคม
โดยทรงมีโครงการในพระราชดำริส่วนพระองค์หลายหลากโครงการ ซึ่งโครงการในระยะเริ่มต้นนั้น
มุ่งเน้นทางด้านการแก้ปัญหาการขาดสารอาหารของเด็กในท้องถิ่นทุรกันดาร
และพัฒนามาสู่การให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาเพื่อการพัฒนาราษฎร
8
« เมื่อ: มีนาคม 12, 2021, 08:11:51 AM »
รถขน วัคซีนโควิด ให้โชค
ห้ามพลาด
10
« เมื่อ: มีนาคม 09, 2021, 03:41:51 PM »

“ดอกไม้งาม… ยืนเด่นต่าง… อย่างละดอก
ผสานกอปร… เข้าด้วยกัน… เป็นสวนสวย”
เวลาชั่งผ่านไปรวดเร็ว เหลือเกิน
นี่ก็มาพร้อมกับ ฝนชะลาน
ฝนชะช่อมะม่วง ชุ่มฉ่ำ
กบเขียด โดดกัน หยอง แหยง
เต็มสวน น่ารักเชียว
ณ.มุมไม้ดอกหอม ที่บ้านค่ะ
ด้วยว่าชื่นชอบ ไม้วงค์กระดังงา
"ปาหนันบอร์เนียว-แสดสยาม-บุหงาลำเจียก-"
ทดลองปลูกครั้งแรก 3 ต้น ค่ะ
ขยายพันธ์ ทาบกิ่ง รออยู่เป็นเดือน
ตอนนี้ มีปาหนันบอร์เนียว 9 ต้น
ที่บ้าน ปลูกลงกระถาง นางชอบแดดรำไร
เป็นไม้ค่อนข้างโตช้า
และแล้ว นางก็โชว์ดอกให้เห็นค่ะ..
อู้หูว....แม่เจ้า อลังการมาก
ออกดอกมาเป็น..แพ รอบต้นเลยค่ะ
ปาหนันบอร์เนียว นางจะออกดอก ตามซอกใบ ดอกห้อยลง
ดอกขณะยังอ่อน จะเป็น สีเขียว
เมื่อดอกแก่ จะเปลี่ยนเป็น สีแดงเข้ม อมม่วง
มีกลีบดอก 3 กลีบ ปลายกลีบแหลม
ออกดอกง่าย ...ออกดอกเป็น คู่ ๆ
ดูน่ารัก น่าเอ็นดูมากค่ะ
ดอกจะ ทยอยบานอยู่หลายวัน
มองแล้ว ปลื้ม ค่ะ
กลิ่นหอม เย็นๆ ของ ปาหนันบอร์เนียว
ชั่งหอม มากมายเหลือเกิน...
ยามค่ำคืน ส่งกลิ่น หอมฟุ้ง
กลิ่นของนางหอมถูกใจมากค่ะ
เดินชมดอกไม้ไทยโบราณ ให้อารมญ์รู้สึกเหมือนว่า..
เรากำลังย้อนมองดูแสงจากอดีตเมื่อ 40 ปี ก่อน
รักต้นนี้ มากค่ะ ปาหนันบอร์เนียว
เจ๊วู
11
« เมื่อ: มีนาคม 08, 2021, 08:53:56 AM »
8 มีนาคม...#วันสตรีสากล (08)
วันสตรีสากล (International Women's Day)
ตรงกับวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี เป็นวันที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสำคัญของผู้หญิงทั่วโลก
เพื่อให้ตระหนักถึงบทบาทของผู้หญิงที่มีต่อการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ
ซึ่งวันดังกล่าวมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปีแล้ว
13
« เมื่อ: มีนาคม 07, 2021, 03:14:26 PM »
วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี
เป็น วันช้างไทย
วันช้างไทย ตรงกับวันที่ 13 มีนาคมของทุกปี ชวนมาอนุรักษ์และเห็นความสำคัญ
ของสัตว์คู่บ้านคู่เมืองที่ขณะนี้จำนวนลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย
"ช้าง" เป็นสัตว์ที่มีความสัมพันธ์และผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาเป็นเวลานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยโบราณ
ช้างเป็นพระราชพาหนะเคียงคู่พระบารมีพระมหากษัตริย์ไทยทุกยุคทุกสมัยเลยทีเดียว แต่สมัยปัจจุบัน
คนไทยกลับเห็นคุณค่าและความสำคัญของช้างไทยลดลงไปทุกขณะ จนช้างถูกนำไปเร่ร่อนหาผลประโยชน์โดยควาญช้าง และล้มตายเป็นจำนวนมากขึ้นทุกที
ดังนั้น เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญ และการดำรงอยู่ของช้างไทย รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนทุกคนหันมาช่วยกันอนุรักษ์ช้าง
ทางคณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบกำหนดให้ทุก ๆ วันที่ 13 มีนาคมของทุกปี เป็นวันช้างไทย
วันช้างไทยริเริ่มขึ้นจากคณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานงาน องค์การภาครัฐและเอกชน
ที่ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างไทย คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
เนื่องจากเล็งเห็นว่าหากมีการสถาปนาวันช้างไทยขึ้น จะช่วยให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง
รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้างมากขึ้น
คณะอนุกรรมการจึงได้พิจารณาหาวันที่เหมาะสม ซึ่งครั้งแรกได้พิจารณาเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ทำยุทธหัตถีมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา แต่วันดังกล่าวถูกใช้เป็นวันกองทัพไทยไปแล้ว จึงได้พิจารณาวันอื่น
และเห็นว่าวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการคัดเลือกสัตว์ประจำชาติ มีมติให้ช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์
ของประเทศไทยนั้นมีความเหมาะสม จึงได้นำเสนอมติตามลำดับขั้นเข้าสู่คณะรัฐมนตรี
ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 เห็นชอบให้วันที่ 13 มีนาคมของทุกปี
เป็น "วันช้างไทย" และได้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2541